ทางการรัฐฮาวายได้เปิดทางหลวงที่มุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเมาวี ซึ่งเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทและร้านค้าจำนวนมากอีกครั้ง หลังถูกปิดไปตั้งแต่เกิดไฟป่ารุนแรงเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา
แต่จุดที่เผชิญกับไฟป่าหนักที่สุดอย่างเมืองลาไฮนา เมืองท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ยังคงถูกปิด เนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังดำเนินปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายและร่างผู้เสียชีวิตอยู่ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟป่าในเมืองลาไฮนาได้ราวร้อยละ 85 แล้ว
ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ "โลกร้อน"เพิ่มความรุนแรงไฟป่าในรัฐฮาวาย
ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟป่าสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 93 ราย
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 110 ราย นี่ถือเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐฮาวาย ทำลายสถิติเหตุสึนามิในปี 1960 ที่คร่าชีวิตผู้คนไป 61 ราย ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด เหยื่อที่สามารถระบุตัวตนได้แล้วมีไม่ถึงสิบราย เพราะสภาพร่างได้รับความเสียหายอย่างหนักจากไฟ
ขณะที่ “จอช กรีน” ผู้ว่าการรัฐฮาวายกล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก 2-3 เท่า เนื่องจากยังมีผู้สูญหายอีกกว่า 1,000 คน และจนถึงตอนนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยดำเนินการค้นหาผู้สูญหายในพื้นที่ประสบภัยได้เพียงร้อยละ 23 ของพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้น
นอกจากนี้ไฟป่าได้เผาทำลายอาคารที่ส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยกว่า 2,200 แห่ง ทางการสหรัฐฯ คาดการณ์ว่ามูลค่าความเสียหายจากไฟป่าครั้งนี้อาจสูงกว่า 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 1 แสน 9 หมื่นล้านบาท ความเสียหายที่รุนแรงเช่นนี้ทำให้ผู้ประสบภัย โดยเฉพาะผู้คนในเมืองลาไฮนาทำใจได้ยาก
อย่างไรก็ดี เบื้องต้นรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือให้ครอบครัวที่ประสบภัย 2 ล้าน 3 แสนดอลลาร์สหรัฐหรือราว 81 ล้านบาท และอนุมัติคำร้องขอความช่วยเหลือแล้วกว่า 1,300 คนจากทั้งหมดกว่า 3,000 คน
ขณะที่ ทำเนียบข่าวได้ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และ จิล ไบเดน สตรีหมายเลขหนึ่ง เตรียมเยือนรัฐฮาวายในวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคมนี้ โดยประธานาธิบดีไบเดนจะพบปะผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตลอดจนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเกาะเมาวีและเจ้าหน้าที่ของรัฐฮาวาย เพื่อหารือถึงการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่า รวมถึงให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้เมื่อวันอาคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไบเดนได้บอกไว้ว่า เขาและภรรยาจะเดินทางไปเยือนฮาวายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมทั้งกล่าวว่า เขาต้องการไปฮาวายเพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนในรัฐฮาวายจะได้รับทุกสิ่งที่ต้องการ และสาเหตุที่เขายังไม่ลงพื้นที่ก่อนหน้านี้เพราะไม่ต้องการรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่
หลังแถลงการณ์ของประธานาธิบดีไบเดนออกมา หลายคนรู้สึกดีใจและมีความหวังว่าสภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาอาจจะดีขึ้น เนื่องจากตอนนี้ผู้คนในบางพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้และบางพื้นที่ยังขาดแคลนปัจจัยพื้นฐาน เช่น ยารักษาโรคและอาหาร
ขณะที่บางคนก็ไม่ได้คาดหวังว่าการที่ผู้นำสหรัฐฯ มาที่นี่จะเปลี่ยนแปลงอะไร เนื่องจากที่ผ่านมาพวกเขาต้องช่วยเหลือกันเอง
ประธานาธิบดีไบเดนกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องการรับมือกับไฟป่าที่ล่าช้า ทั้งๆ ที่ไฟป่าครั้งนี้รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐฮาวาย และเมื่อผู้สื่อข่าวถามเขาเกี่ยวกับยอดผู้เสียชีวิตในรัฐฮาวายที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เขากลับตอบว่า ไม่มีความเห็นใดๆ
นอกเหนือจากเรื่องของประธานาธิบดี ผู้ประสบภัยจำนวนมากยังออกมาตั้งข้อสงสัยรวมถึงแสดงความไม่พอใจ หลังไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดๆ จากทางการรัฐเกี่ยวกับไฟป่าและแผนการการอพยพ ทั้งที่รัฐฮาวายถือว่ามีระบบแจ้งเตือนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพื่อแจ้งเตือนภัยสึนามิหรือภัยพิบัติอื่นๆ การขาดการเตรียมความพร้อมทำให้เกิดความโกลาหล บางคนต้องกระโดดลงทะเลเพื่อหนีไฟป่า และหลายคนพลัดหลงกับสมาชิกในครอบครัว
ล่าสุด ทางการเกาะเมาวีได้ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุที่สัญญาณเตือนภัยไม่ดัง โดยระบุว่า สัญญาณไซเรนส่วนใหญ่อยู่บริเวณชายฝั่งและใช้สำหรับแจ้งเตือนเหตุสึนามิ หากในตอนนั้นทางการเปิดเสียงสัญญาณไซเรน อาจทำให้ผู้คนเข้าใจผิดว่าเป็นการเตือนภัยเกี่ยวกับสึนามิและหนีขึ้นบริเวณที่สูง ซึ่งเสี่ยงที่จะเผชิญกับไฟป่าที่กำลังลุกลามได้ ในกรณีนี้ ทางการจึงต้องแจ้งเตือนภัยพิบัติผ่านทางโทรศัพท์มือถือ รวมถึงโทรทัศน์และวิทยุ
ทั้งนี้ มีรายงานว่าช่วงที่เกิดไฟป่า ระบบไฟฟ้าในหลายพื้นที่ถูกตัดเนื่องจากอุณหภูมิความร้อนที่สูงขึ้นจากไฟป่าทำให้ระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติฉุกเฉินไม่ทำงานอย่างไรก็ตาม สำนักข่าว The Washington Post รายงานว่า เสาไฟฟ้าและระบบแจ้งเตือนบนเกาะเมาวีเกิดความขัดข้องก่อนที่จะเกิดไฟป่าไม่นาน ด้านผู้ว่าการรัฐฮาวาย ได้มอบหมายให้อัยการสูงสุดของรัฐฮาวาย
ใช้อำนาจทางกฎหมายตรวจสอบระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินและสัญญาณไซเรนบนเกาะเมาวี เพื่อปรับปรุงการตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินอย่างครอบคลุมที่สุด
ไฟป่าบนเกาะเมาวีครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบกว่า 100 ปี จนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่าต้นเพลิงมาจากไหน แต่ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากประกายไฟของเสาไฟฟ้าที่ล้มลงมา เพราะอิทธิพลพายุเฮอริเคนดอราที่ทำให้เกิดลมแรง ผู้คนในเมืองลาไฮนาได้รวมตัวกันยื่นฟ้องแบบกลุ่มต่อบริษัทฮาวายเอียน อิเลกทริก ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภคที่ใหญ่ที่สุดของรัฐและเป็นบริษัทผู้ให้บริการไฟฟ้าบนเกาะเมาวี ในความผิดฐานอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐานเพราะไม่สามารถต้านทานแรงลม และไม่ปิดการจ่ายไฟ แม้จะได้รับคำเตือนล่วงหน้าหลายวันว่ารัฐฮาวายอยู่ในความเสี่ยงสูงจากลมแรงของพายุคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
อย่างไรก็ดีทางบริษัทฮาวายเอียน อิเลกทริกได้ออกมาโต้แย้งว่าการตัดไฟอาจสร้างปัญหาให้กับผู้ที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ นอกจากนี้การปิดระบบจ่ายไฟจำเป็นต้องประสานงานกับเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินก่อน
แม้จะยังไม่ทราบต้นตอของไฟป่า แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟป่าลักษณะรุนแรงเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาวะโลกร้อนที่ทำให้รูปแบบของสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง ยิ่งโลกร้อนมากขึ้นเท่าไหร่ สภาพอากาศก็จะมีการเปลี่ยนแปลงที่สุดขั้วมากขึ้น ปีนี้ถือเป็นปีที่อุณหภูมิสูงและอากาศร้อนจัดผิดปกติ
นอกจากนี้ โลกร้อนทำให้รัฐฮาวายกำลังประสบภาวะแห้งแล้งมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าพื้นที่ร้อยละ 90 ของรัฐมีปริมาณน้ำฝนลดลงจากเมื่อศตวรรษที่แล้ว โดยความแล้งเริ่มเห็นได้ชัดตั้งแต่ช่วงปี 2008อากาศที่ร้อนจัดและความแห้งแล้ง ประกอบกับใบไม้และหญ้าแห้งนี้เองเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีที่ทำให้ไฟป่าโหมกระหน่ำ อีกหนึ่งตัวเร่งของไฟป่าคือแรงลมที่เกิดจากจากอิทธิพลพายุเฮอริเคนดอราที่เคลื่อนตัวห่างจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะฮาวายไปราว 1,200 กิโลเมตร ซึ่งสภาพภูมิประเทศหลายส่วนบนเกาะเมาวีที่เป็นเทือกเขาสูงชันก็ยิ่งให้ลมที่พัดเข้ามาโหมไฟป่าให้ยิ่งมีความรุนแรง